เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ที่ล้ำค่ามาก ๆ ซึ่งไม่ค่อยได้พบความสวยงามของวัดวาอารามแบบนี้เท่าไหร่ตลอดแนวชายแดน พบบ้างในเขตอำเภอแม่สะเรียง ถือว่าเป็นระดับคลาสสิก
วัดจองคำ
หันหน้าเข้าวัดอยู่ทางด้านซ้ายมือ เป็นวิหารไม้ยกพื้นสูง รูปทรงแบบหอสูง หรือปลายยอดแหลมแบบชฎา วิหารเดิมถูกไฟไหม้และบางส่วนนำไปสร้างที่เมืองโบราณ เดินขึ้นไปแล้วเป็นศาลาโล่งพื้นเป็นไม้เคลือบผิวมัน
อีกวิหารหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าเป็นหอไม้สัก ภายในประดิษฐานหลวงพ่อโต
วัดจองกลาง
วิหารแบบคอสามชาย คือหลังคา 3 ชั้น ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก เชิงชายประดับด้วยสังกะสีลวดลายฉลุแกะสลัก เป็นอาคารไม้เก่าแก่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ มีภาพจิตรกรรมเขียนหลังกระจกที่ประเมินค่าไม่ได้ ด้านซ้ายภายในอาคารเป็นพิพิธภัณฑ์ของโบราณทางพุทธศาสนา สามารถเดินเข้าชมได้ครับ
ทั้ง 2 วัด มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน จึงดูเหมือนว่าเป็นวัดคู่แฝด และติดปากเรียกกันสั้น ๆ แค่ วัดจองคำ – จองกลาง (ภาษาเขียนน่าจะต้องมีขีดด้วย) ความจริงคือ วัดจองคำ วัดจองกลาง
เป็นยอดนิยมมุมที่ถ่ายรูปได้เกือบทั้งวัน
แนะนำร้านอาหารนั่งชิค ๆ ชมวิวหนองจองคำ
เกร็ด
จริง ๆ แล้วยังมีอยู่ติดกันอีกหนึ่งวัดคือ วัดจองสู แต่ไม่ได้ถูกพัฒนาเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งยังคงเห็นเป็นร่องรอยและดูจะมีอาณาบริเวณราง ๆ
เรื่องเล่าจากอดีตเมื่อก่อน มัณฑะเลย์ พุกาม คือ สุดยอดทางพุทธศาสนาที่พระสงฆ์ต้องเดินทางไปศึกษาพระธรรมมาถ่ายทอด แม่ฮ่องสอนเป็นจุดครึ่งทางระหว่างเชียงใหม่กับมัณฑะเลย์ ที่บรรดาพระสงฆ์พำนักและเตรียมเสบียง
วัสดุก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ก็ถูกนำมาจากพม่า ที่ได้รับอิทธิพลความเจริญมาจากอินเดียและอังกฤษที่ครอบครองพื้นที่ในสมัยนั้น
โดยมากก็พาฝรั่งเดินชมประมาณนี้ ก็ไม่ได้เน้นด้านประวัติกันจริงจัง ไม่ต้องวันเดือนปีกัน
มาเที่ยวแม่ฮ่องสอน เราต้องแยกคำว่า พม่า และ ไทใหญ่ ออกจากกัน และทางการก็ใช้ ไท ไม่มี ย ยักษ์ ประมาณว่าเป็นภาษาเขียนของ ไต หรือ คนไต เป็นกลุ่มชนชาติหนึ่งในรัฐฉาน [ Shan ] ภาษาอังกฤษออกเสียง ไต เป็น Dai